Tuesday, September 19, 2017

Queens of Langkasuka



                                     



                                                                        Janine Yasovant : Writer 
                                        
                                                           


                                                            

It was not so usual that the Thai film “Queens of Langkasuka” got premiere release in 16-27 May at the 60th film festival in Cannes before the press release in Thailand was held. The film's producer, Mr. Somsak Taecharattanaprasert, the chair person of Sahamonkol film, saw the potential in this film and wanted to present it internationally right from the beginning. The audience there said that a lot of people saw the film and they were quite impressed. This film captured the somewhat mysterious history of an ancient empire, called “Langkasuka.”   

I thought that the foreground and the background portrayal of Queens of Langkasuka was quite spectacular. This action film is based on the actual historical facts but mixed with some fantasy content. It begins with three queens of Langkasuka, who sacrificed their happiness for their beloved land, contrasted with the lifestyles of people in fishing villages and pirates who menaced them.

“This project was very challenging. I preferred to do something challenging and strange. We talked about making a movie about pirates in fantasy theme. Tried to anticipate and interpret the questions. We researched back about 400-500 years. At that time, queens ruled the southern empire, which was extremely interesting. At the same time, colonization by the English took place and Japanese traveled to the south. I thought that the actual Doo Lam technique was superb then I expanded the abilities of this technique in the script. Concept and story based on fighting between good and evil in human beings.” Wint said.

On the other side, "star" actors and actresses were important for Thai movie history. Great actors were working together with famous young actors. The actress Jarunee Suksawat came back to film again, the protagonist Ananda Everingham who made many movies in the past few years as well as martial arts actor “Diao” Choophong Changprung.

Many people talked about other actors who used to work with Nonzee such as Jessadapon Pholdee, Suphakorn Kijsuwan, Atthapon Thimakorn, Chaichai Ngamsan. Winai Kraibut and Suwinit Panjamawat. Thus Queens of Langkasuka was like the reunion party for them.   


                                              




Synopsis

Four centuries ago, Raya Bahadoo Shah, the king of Langkasuka Empire, was murdered and he had no son to take over the throne. The royal family had no choice and appointed the Princess Heechao, the eldest of the three sisters, to be the first female queen of Langkasuka. Although Queen Heechao ruled the land carefullyl, greedy neighboring countries, rebellions and pirates intended to conquer this wealthy and prosperous land.

Then Yanis Bree, the Dutch weapon master, traveled with his apprentice Limkiem to bring the best and largest cannon “Mahapuenyai” to Queen Heechao to deend her kngdom. Unfortunately, pirates, who were led by the Prince Rawai and the Black Crow, the fearsome pirate who the possessed mystical art called “Doo Lam”, ambushed and attacked the ship of Yanis Bree. The Dutch ship exploded and the gigantic cannon sank under sea but Limkiem was the one who survived from that explosion.

Paree, a young ordinary man from a fishing village, had the skill to train advanced Doo Lam. He grew up and kept the desire for revenge for his parents who were killed by the Black Crow. He stayed with Limkiem who continued as an inventor in the fishing village and they developed many weapons and inventions to fight against pirates.

Although Langkasuka has the skillful and loyal warrior Yarang, Queen Heechao must arrange marriage her youngest sister Princess Oongu with Prince Pahang from an allied country to increase her military strength. Yarang fell in love with the Princess Biroo but he cannot express his feelings to her.

As the battle of many factions began, fate brought Paree to meet the Princess Oongu and later they flee to a deserted island to heal the wounds. There he trained in the advanced Doo Lam from White Kraben, the master of Doo Lam. Paree found out that Doo Lam was so powerful and dangerous if it was used in the wrong way. Not many practitionersd can control this power. Meanwhile, Limkiem was captured and kept as a hostage by the pirates and forced to make cannons to destroy Langkasuka. Later the pirates successfully retrieved the sunken cannon, Mahapuenyai, from the sea.

The Langkasuka Empire was at a disadvantage and nearly fell. It is up to the brave warrior Yarang, the cleverness of Limkiem, the sacrifice of the brave Princess Oongu as well as the mystical force Doo Lam from Paree to save the country from the pirates.







จานีน ยโสวันต์
พฤศจิกายน 2008

ดูไม่เป็นปรกติเท่าไหร่นักที่ภาพยนตร์เรื่องปืนใหญ่จอมสลัดไปฉายรอบปฐมทัศน์ในช่วงวันที่ 16 – 27 พฤษภาคมที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ก่อนที่จะนำมาฉายในรอบสื่อมวลชนของประเทศไทยคุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ กรรมการผู้จัดการของสหมงคงฟิลม์ พบเห็นความเป็นไปได้ในภาพยนตร์เรื่องนี้และต้องการที่จะนำเสนอนานาชาติตั้งแต่ต้น ผู้ชมในที่นั้นกล่าวว่าพวกเขาค่อนข้างรู้สึกประทับใจมาก ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เก็บเรื่องราวประวัติศาสตร์ลึกลับของอาณาจักรโบราณที่เรียกว่า “ลังกาสุกะ”

ดิฉันคิดว่าภาพเบื้องหน้าและเบื้องหลังของหนังเรื่องปืนใหญ่จอมสลัดนั้นยอดเยี่ยมมาก ภาพยนตร์

แอกชั่นเรื่องนี้มีเรื่องราวมาจากประวัติศาสตร์จริงแต่ก็ผสมผสานความเป็นแฟนตาซีไว้ด้วย เริ่มด้วยราชินีแห่งลังกาสุกะสามพระองค์ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อดินแดนอันเป็นที่รัก การดำเนินชีวิตของคนในหมู่บ้านชาวประมง และโจรสลัดที่มาคุกคามพวกเขา


นี่เป็นครั้งแรกที่วินทร์ เลียววารินทร์ นักเขียนซีไรท์ชื่อดังของประเทศไทยเขียนบทภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามจินตนาการของนักเขียนจะอยู่ที่แผ่นกระดาษเท่านั้นถ้าไม่มีคุณเอก เอี่ยมชื่น ผู้ออกแบบฉาก ครั้งนี้เขาได้ทำงานกับ นนทรีย์อีกครั้ง เอกรับผิดชอบในการสร้างฉาก อาวุธ เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ประกอบฉากตามประวัติศาสตร์ ทุกอย่างมีการค้นคว้ามาในเชิงลึก และมีการเตรียมงานมาอย่างระมัดระวังในทุกขั้นตอนของการสร้างซึ่งมีความสมจริงอย่างมาก

"โปรเจกต์นี้จะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มี วินทร์ เลียววาริณ และเอก เอกกับผมรู้ใจกันแล้วเพราะทำงานด้วยกันมาตลอด โยนไอเดียกันอยู่ ว่าเรื่องน่าจะเกี่ยวกับอะไร เตรียมงานไปด้วยทะเลาะไปด้วย เอกเป็นคนมีบทบาทสำคัญตั้งแต่การเตรียมงาน จนถึงการทำงานที่กองถ่าย เมื่อไอเดีย 2 คนสำเร็จก็ไปพบกับพี่วินทร์ คุยด้วยกัน ซึ่งพี่วินทร์ ได้กรุณามากที่มาเขียนบท

คำกล่าวของ "อุ๋ย-นนทรีย์" ในงานแถลงข่าวปืนใหญ่จอมสลัดเมื่อวันก่อนเป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นถึงความ สำคัญของสองกำลังหลักอย่างวินทร์และเอก ซึ่งในส่วนของเอกเป็นที่ทราบดีว่าเขาเป็นคู่หูของผู้กำกับฯ อุ๋ยมาตั้งแต่2499 อันธพาลครองเมือง (2540), นางนาก (2542), จันดารา (2544)โอเคเบตง (2546) ดังนั้นคงเป็นเรื่องแปลกที่เขาจะไม่มาร่วมทำผลงานชิ้นเอกในครั้งนี้ แต่สำหรับเหตุผลของการมาร่วมงานของ วินทร์ เลียววาริณ ไม่มีใครตอบได้ดีไปกว่าเจ้าตัว

"เป็นโปรเจกต์ที่ท้าทาย ชอบทำอะไรท้าทาย มีความแปลก โครงการก็คุยกันว่าจะทำเรื่องโจรสลัดที่ออกมาในรูปแบบแฟนตาซี พยายามตีโจทย์เขียนในยุคตะรุเตาแล้วค่อนเปลี่ยนเป็นให้ย้อนยุคไปประมาณ 400-500 ปีดูว่าสมัยศรีราชินีเป็นช่วงเวลาที่มีสีสันมาก พอรีเสิร์ทเพิ่ม มีประเด็นเยอะ
ขณะเดียวกันก็มีเรื่องลัทธิล่าอาณานิคมอังกฤษ และญี่ปุ่นเข้ามาทางภาคใต้มันเป็นเรื่องที่ท้าทาย ไปอ่านที่ไหนไม่รู้เป็นวิชา ดูแล้วไม่คิดว่าวิชาจริงๆ จะสามารถทำได้ขนาดนี้ จึงได้ขยายวิชานี้ให้เป็นวิชาที่มีพลังมากมาย คอนเซปต์ ของเรื่องและฉากเป็นเรื่องของการต่อสู้ของมนุษย์ ทั้งในด้านมืดของ
คนในตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาเป็นผ้าขาว อันนี้เป็นสิ่งที่จุดประเด็นโดยพื้นฐานของความเป็นมนุษย์" วินทร์กล่าว

เมื่อพูดถึงบุคคลเบื้องหลังแล้ว เบื้องหน้าของปืนใหญ่โจรสลัดก็เป็นสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้ง สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์หนังไทย เพราะนี่ถือเป็นการปะทะฝีมือของนักแสดงคุณภาพชั้นครู และเหล่านักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงทั่วฟ้าเมืองไทย ตั้งแต่การได้นางเอกตลอดกาลย่าง จารุณี สุขสวัสดิ์
กลับมาหวนคืนแผ่นฟิล์มเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี พร้อมด้วยรุ่นใหญ่มากฝีมือ สรพงษ์ ชาตรี ร่วมด้วยพระเอกเจ้าเสน่ห์ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และพระเอกนักบู๊ "เดี่ยว" ชูพงษ์ ช่างปรุง

และที่หลายคนพากันกล่าวถึงเป็นอย่างมากคือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของนักแสดงที่เคยร่วมงานกับ อุ๋ย-นนทรีย์ นำโดย เจษฎาภรณ์ ผลดีศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, อรรถพร ธีมากร,ชาติชาย งามสรรพ์, วินัย ไกรบุตรและ สุวินิต ปัญจมะวัต ซึ่งทุกคนเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ 2499 อันธพาลครองเมือง, นางนาก และจันดารา ตามลำดับ ดังนั้นปืนใหญ่จอมสลัดจึงเปรียบเสมือน "งานเลี้ยงรุ่น" ของพวกเขา

เนื้อเรื่องย่อ

400 ปีที่แล้วลังกาสุกะ รัฐอิสระต้องสูญเสีย รายาบาฮาดูร์ ชาห์ จากการถูกลอบปลงพระชนม์ ราชวงศ์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการสถาปนา องค์หญิงฮีเจา ธิดา คนโตขึ้นเป็นรายาสตรีองค์แรกแห่ง ลังกาสุกะ แม้รายาฮีเจาจะปกป้องบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง แต่เหล่าแคว้นรอบด้าน รวมทั้งกลุ่มกบฏและโจรสลัดต่าง ๆ ล้วนหมายจะยึดครองดินแดนอันมั่งคั่งแห่งนี้จนกระทั่ง ยานิส บรี ปราชญ์แห่งอาวุธชาวดัชท์ เดินทางมาพร้อมกับศิษย์เอกนักประดิษฐ์ชาวจีนนาม ลิ่มเคี่ยม เพื่อนำมหาปืนใหญ่ อาวุธที่ดีที่สุดไป
ถวายรายาฮีเจาใช้ป้องกันบ้านเมือง แต่กลับถูกกลุ่มโจรสลัดที่นำโดยเจ้าชายราไวและ อีกาดำ จอมสลัดผู้มีวิชาดูหลำอันแก่กล้า ซุ่มโจมตีเพื่อชิงมหาปืนใหญ่ จนทำให้เรือฮอลันดาระเบิด ยานิส บรีถึงแก่ความตายกระบอกปืนใหญ่จมลงสู่ก้นทะเล เหลือเพียงแต่ลิ่มเคี่ยมเท่านั้นที่ยังรอดชีวิตอยู่ เหตุการณ์ครั้งนี้ยังเป็นเวลากำเนิดของ 



ปารี เด็ก ชายชาวเลผู้มีคุณสมบัติพิเศษในตัวที่จะสามารถฝึกวิชาดูหลำขั้นสูงได้ ปารีเติบโตเป็นหนุ่ม พร้อมกับสั่งสมทั้งความสามารถและความแค้นในการสะสางอีกาดำที่ทำให้พ่อและแม่ ของตนต้องตาย ลิ่มเคี่ยมซึ่งช่วยชีวิตปารีในครั้งนั้นไว้ได้หลบมาใช้ชีวิตอยู่กับหมู่บ้านชาวเล พร้อมประดิษฐ์อาวุธพิสดารมากมายและตั้งกลุ่มก่อกวนตัดกำลังโจรสลัดขึ้นแม้ลังกาสุกะจะมีทหารเอกฝีมือ

เยี่ยมอย่าง ยะรังแต่ฮีเจาก็ยังจำเป็นต้องให้ อูงู น้องสาวคนเล็กของตนอภิเษกกับ เจ้าชายปาหังเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้ลังกาสุกะ แม้อูงูจะไม่เต็มใจก็ตาม ขณะที่ยะรังนั้นกลับตกหลุมรัก บิรู องค์หญิงคนรอง แต่กลับไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกนั้นได้ การต่อสู้ของหลายฝ่ายเริ่มขึ้น จนทำให้ปารีได้มาพบกับอูงูทั้งคู่หลงไปติดเกาะร้างแห่งหนึ่ง เพื่อรักษาตัวจากบาดแผลที่นั่น…ปารีได้ฝึกวิชาดูหลำชั้นสูงจาก อาจารย์กระเบนขาว ปรมาจารย์ทางดูหลำ และค้นพบว่า ดูหลำคือวิชาที่มีทั้งด้านสว่างที่ทรงพลังและด้านมืดที่น่ากลัว ยากจะควบคุมจิตใจเอาไว้ได้ พร้อมกับที่ความรักของทั้งปารีและอูงูได้งอกงามขึ้น ขณะเดียวกัน ลิ่มเคี่ยมกุญแจสำคัญในการสร้างปืนใหญ่

กลับถูกกลุ่มสลัดจับตัวเป็นเชลยไว้ได้ และถูกบังคับให้ต้องสร้างปืนใหญ่ที่จะนำมาใช้ทำลายล้างรัฐลังกาสุกะ สงครามครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น โดยลังกาสุกะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะกองทัพโจรสลัดกลับสามารถกู้มหาปืนใหญ่ในตำนานนั้นจากก้นทะเลไว้ได้ ลังกาสุกะเป็นเป้าหมายของการทำลายล้าง มีเพียง ยะรังนักรบผู้กล้า ปัญญาของลิ่มเคี่ยมอูงูผู้พร้อมสละทั้งชีวิตและความรักเพื่อแผ่นดิน และพลังดูหลำอันลึกลับของปารีเท่านั้น ที่จะต่อกรกับแสนยานุภาพจากกองทัพโจรสลัดเอาไว้ได้











No comments:

Post a Comment

Lakey Inspired